เนื้อผ้าโปโล


วิธีการเลือกเนื้อผ้า เสื้อโปโล ให้ตรงกับความต้องการการใช้งาน

หลักเนื้อผ้าที่นิยมใช้ทำ เสื้อโปโล นั้น ที่นิยมมีอยู่แค่ 3 ชนิด คือ 
  • ผ้าฝ้าย (Cotton) 100%
  • ผ้าฝ้าย Cotton ผสม Polyester 
  • ผ้า Polyester 100% หรือ ใยสังเคราะห์ 
ผ้าทั้ง3 ชนิดนั้นมีความแตกต่างกันอยู่มากขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้า เราจะไปดูกันคะว่าเนื้อผ้าแต่ละชนิดแตกนั้นต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

เสื้อโปโล ผ้า Cotton 100%

          ทำมาจากฝ้ายมีความยืดหยุ่นมาก ระบายอากาศดี เนื้อผ้านุ่ม เส้นใยฝ้ายฟูบาง ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ แต่มีข้อเสียเรื่อง ผ้าจะหดตัวเมื่อผ่านการซักในครั้งแรก และจะย้วยเมื่อใช้ไปเป็นเวลานานๆ หรือเมื่อซักแล้วตากแดดแรงๆ  
          ผ้าชนิดนี้จงเหมาะกับ ผู้ที่ต้องการใช้ในงานอยู่ที่กลางแจ้งและออกแดดบ่อยๆ เพราะผ้าจะระบายอากาศได้ดี ไม่อมเหงื่อ หรือต้องการความหรูหราใส่สบาย ฉะนั้นราคาค่อนข้างจะสูง

เสื้อโปโล ผ้าฝ้าย Cotton ผสม Polyester เช่นผ้า CVC และ TC

        ผ้า CVC จะมีส่วนผสมของ Cotton70% และ Poly 30%  จะมีความยืดหยุ่นมาก ระบายอากาศดี เนื้อผ้านุ่ม ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว

        ผ้า TC จะมีส่วนผสมของ Cotton 35% และ Poly 65% จะมีความยืดหยุ่นปานกลาง เนื้อผ้าค่อนข้างนุ่มใส่สบาย ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว  ผ้าชนิดนี้เหมาะกับคนที่เหงื่อออกง่ายแม้ทำงานอยู่ในห้องแอร์เพราะระบายอากาศได้ดีพอสมควร

         ข้อดีมากๆสำหรับ เสื้อโปโล Cotton ผสม Polyester เมื่อเทียบกับ เสื้อโปโล Cotton 100% คือ อยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วยง่าย ส่วน Polyester จะช่วยให้ความหดและย้วยลดน้อยลง
         ส่วนราคานั้นค่อนข้างคุ้มค่า จากคุณสมบัติที่กล่าวมาจึงเหมาะกับทำเป็นเสื้อโปโลบริษัท โรงงาน ออฟฟิต ห้างร้านต่างๆ

เสื้อโปโลผ้า TK

      ผ้า TK มีส่วนผสมของเส้นใยสังเคราะห์ Polyester 100%  มีความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อย ระบายอากาศได้ไม่ค่อยดี ผ้ามีลักษณะเป็นมันเงา ไม่ค่อยซับเหงื่อ รีดง่าย ยับยาก ไม่หด ไม่ยืด ราคาถูก ทนทาน และหาซื้อง่ายตามท้องตลาด ผ้าชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในห้องแอร์ ไม่ค่อยโดนแดด 
      เนื่องจากราคาค่อนข้างถูกจึงเหมาะกับโรงงาน บริษัทที่ต้องการประหยัดงบประมาณ หรือใช้ใส่งานเป็นครั้งๆ ไม่ใส่บ่อยๆ

         แต่อย่างไรก็จะขึ้นอยู่ที่ลูกค้าด้วยว่าชอบผ้าโปโล แบบไหน และเมื่อได้ เสื้อโปโล ที่เราชอบแล้วการซักนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันควรจะซักด้วยมือ หรือเครื่อง แต่ไม่ควรตากแดดจัดๆเป็นเวลานานๆ และเมื่อแห้งควรพับเก็บไม่ควรแขวนไว้เพียงเท่านี้เราก็จะได้เสื้อที่จะอยู่กับเราไปนานและตรงกับการใช้งานอีกด้วย..